1. งานเลี้ยงน้ำชาบอสตัน เป็นเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งการปฏิวัติสหรัฐอเมริกาและการประกาศอิสรภาพ
ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1773 ผู้ประท้วงทางการเมืองทำลายน้ำชาที่บรรทุกมาทั้งลำเรือที่ส่งมาโดยบริษัทอินเดียตะวันออกเพื่อประท้วงการขึ้นภาษีน้ำชา รัฐบาลอังกฤษจึงตอบโต้อย่างรุนแรงและนำมาซึ่งการปฏิวัติ
2. 4 กรกฎาคม ค.ศ.1776 ถือเป็น วันชาติสหรัฐอเมริกา (Independence Day) โดยอาณานิคมของสหราชอาณาจักร 13 แห่งในดินแดนอเมริกาได้ออก “คำประกาศเอกราชจากสหราชอาณาจักร” (Declaration of Independence)
ต่ออังกฤษ ซึ่งมีใจความสำคัญถึงความมีสิทธิในชีวิตเสรีภาพ และการแสวงหาความสุขของชีวิตของมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน กล่าวโดยประธานาธิบดีคนที่ 3 ทอมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ก่อให้เกิดประเทศใหม่ชื่อว่า “สหรัฐอเมริกา” (United State of America) นั่นเอง
3. เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) ตั้งอยู่ ณ เกาะลิเบอร์ตี ที่นครนิวยอร์ก เป็นของขวัญจากประเทศฝรั่งเศสในวาระครบรอบ 100 ปีฉลองวันชาติอเมริกา
4. หนังสือพิมพ์เพนซิลวาเนีย อีฟนิง โดยเบนจามิน ทาวน์ (ค.ศ.1775-1784) เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่ได้ตีพิมพ์หนังสือประกาศอิสรภาพ ในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ.1776
5. ระหว่างค.ศ.1777 ถึง 1960 มีการเปลี่ยนดีไซน์ของธงชาติสหรัฐอเมริกาหลายครั้งก่อนที่จะมาเป็นแบบปัจจุบัน แถบแดงและขาวทั้ง 13 แถบหมายถึง โคโลนีดั้งเดิมทั้ง 13 สีแดง หมายถึง การยืนหยัดต่อสู้ สีขาวหมายถึง ความบริสุทธิ์ สีน้ำเงิน หมายถึง ความยุติธรรม
6. วันที่ 2 กรกฎาคมเกือบเป็นวันประกาศอิสรภาพ เพราะเป็นวันที่สภาออกเสียงให้ประกาศอิสรภาพ อย่างไรก็ตาม หนังสือประกาศเกิดขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776
7. การเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการครั้งแรกจัดขึ้นที่เมืองฟิลาเดเฟียในปี ค.ศ.1777 ซึ่ง ในงานมีทั้งขบวนพาเหรด การจุดพลุดอกไม้ไฟ และยิงสลุต 13 นัด
8. ในปี ค.ศ.1781 แมสซาชูเซตส์เป็นรัฐแรกที่ประกาศให้วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันหยุดประจำรัฐ ก่อนที่ จะเป็นวันหยุดประจำชาติเมื่อ ค.ศ.1870 และเป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1938
9. นอกจากชาวอเมริกันจะเฉลิมฉลองวันชาติกับครอบครัว มีงานเลี้ยงบาร์บีคิว ขบวนแห่ต่างๆ แล้ว “การแข่งขันกินฮอตดอก” ยังเป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 อีกด้วย