Terms on Hairdressing – ผมสลวยด้วยศัพท์ซาลอน
บรรดาสาวๆที่ย้ายไปต่างแดนเป็นครั้งแรก ร้านเสริมสวยสตรี (hair salon) นับเป็นด่านหนึ่งที่ต้องฝ่า (ร้านตัดผมผู้ชายเรียก barbershop) บนกระดานราคาจะเต็มไปด้วยศัพท์แสงของกริยาว่าด้วยการตกแต่งและทำผม (hairdressing) แปลกๆ ที่มักมาในรูปคำสั้นๆ และตามด้วยราคา โดยมักมีส่วนลดสำหรับผสม 2 หรือ 3 รายการ
ไล่จากขั้นตอนแรกของการสระผมก่อน (wash หรือ shampoo) ตามด้วยการชโลมครีมนวดผม หรือน้ำยาเคลือบสีผมแบบอ่อนที่ไม่มีแอมโมเนียที่หมักทิ้งไว้แล้วล้างน้ำออก (rinse) ก่อนสู่ขั้นตอนการเป่าให้แห้ง (dry หรือ blow) โดยมีแบบ hot air และ cold air ให้เลือกอุณหภูมิที่ออกมาจากเครื่องเป่าผม (dryer)
ในขั้นตอนตกแต่ง มีทั้งแบบตัดพื้นฐาน (cut) หรือเล็มออก (trim) เพียงอย่างเดียว หรือทำการดัดด้วยที่ต้องใส่น้ำยาดัด (perm) ก่อนม้วนผม (curl) ก่อนเข้าขั้นตอนใหญ่สุดท้ายของการย้อมหรือทำสีผม ซึ่งมีทั้งกัดสีผมธรรมชาติเดิมหรือที่ย้อมหนก่อนออก (bleach) แล้วย้อม (dye หรือ color) ในบางกรณีช่างอาจแนะให้ย้อมก่อนการตัดก็มี
สำนวนเบื้องต้นที่ใช้สื่อสารกับช่างทำผม (hairdresser) ก็คือ I want หรือ I would like to have my hair +… แล้วตามด้วยคำกริยาในรูปช่องที่3ของรายการที่ต้องการ เช่น I want to have my hair permed. หรือ Can I have my hair bleached? หรือ May I have my hair cut? ก็ได้ (to cut เป็นคำกริยายกเว้นที่มีรูปเหมือนกันหมดทั้ง3ช่องการผัน)
แถมนิดว่าคำ salon ยังถูกนำมาใช้พูดถึงสถานเสริมความงามทั่วๆ ไป ที่อาจให้บริการหลายส่วนเช่นรวมนวดหน้าบำรุงผิวและอื่นๆ อย่างที่เรียกว่า beauty salon หรือ nail salon ที่เน้นการตัดและตกแต่งเล็บเป็นหลัก และยังมีความหมายที่ใช้กันมาแต่ก่อน ที่สื่อถึงห้องในบ้านของคนมีฐานะที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อรับแขกในกิจกรรมเฉพาะต่างๆ อย่าง tea salon ที่มาจิบชากินขนมของว่าง หรือ literary salon ที่มาพูดคุยกันถึงงานวรรณกรรม
สะกิดบอกนิดนะคะว่า hair salon ในต่างประเทศมักจะต้องจองคิวล่วงหน้า หลายที่ไม่รับลูกค้า walk in