“Passive Voice” เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่น่าจะมีไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจว่า Passive Voice คืออะไร ใช้ยังไง และสำคัญแค่ไหน วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันแบบละเอียดยิบ รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะเข้าใจ Passive Voice อย่างถ่องแท้แน่นอน
Passive Voice คืออะไร ?
Passive Voice คือรูปแบบประโยคที่เน้นไปที่ “ผู้ถูกกระทำ” หรือ “สิ่งที่ถูกกระทำ” มากกว่าผู้ที่เป็นคนกระทำ ตรงข้ามกับ Active Voice ที่มักจะเน้นผู้กระทำเป็นหลัก เช่น ในประโยค “The chef cooked the meal” (Active Voice) จะเน้นไปที่ว่าเชฟเป็นผู้ทำอาหาร แต่หากเปลี่ยนเป็น Passive Voice จะกลายเป็น “The meal was cooked by the chef” ซึ่งเน้นว่าอาหารถูกทำขึ้น
โครงสร้างของ Passive Voice
การสร้าง Passive Voice จะใช้โครงสร้าง:
[Subject + Verb to be + Past Participle + (by Agent)]
- Subject: สิ่งที่ถูกกระทำ เช่น The book, The meal
- Verb to be: รูปของ Verb to be จะเปลี่ยนไปตาม Tense เช่น is, was, will be
- Past Participle: กริยาช่องที่ 3 เช่น eaten, written, made
- By Agent: ผู้กระทำ (หากต้องการระบุ) เช่น by the chef, by the teacher
ตัวอย่าง:
- The cake was baked (by my mother).
- The song is sung by the choir.
Active Voice vs. Passive Voice
Active Voice | Passive Voice |
The chef cooked a delicious meal. | A delicious meal was cooked by the chef. |
The police arrested the suspect. | The suspect was arrested by the police. |
She wrote a letter to her friend. | A letter was written to her friend (by her). |
They will finish the project next week. | A new product is being launched by the company. |
จากตารางนี้จะเห็นว่าActive Voice คือประโยคที่บอกเล่าผ่านมุมมองของผู้กระทำ ตรงกันข้ามกับ Passive Voice ซึ่งจะเน้นไปที่ผลลัพธ์หรือสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ
Passive Voice ใน 12 Tenses
การใช้ Passive Voice ใน 12 Tenses จะแตกต่างกันเล็กน้อยตามโครงสร้าง Verb to be ของ Tense นั้น ๆ โดยมีตัวอย่างดังนี้
- Present Simple:
- Active: She waters the plants.
- Passive: The plants are watered (by her).
- Present Continuous:
- Active: He is fixing the computer.
- Passive: The computer is being fixed (by him).
- Present Perfect:
- Active: They have finished the project.
- Passive: The project has been finished (by them).
- Present Perfect Continuous:
- Active: She has been reading the book.
- Passive: The book has been being read (by her). (ใช้ไม่บ่อย)
- Past Simple:
- Active: The manager approved the plan.
- Passive: The plan was approved (by the manager).
- Past Continuous:
- Active: They were discussing the issue.
- Passive: The issue was being discussed (by them).
- Past Perfect:
- Active: He had completed the task.
- Passive: The task had been completed (by him).
- Past Perfect Continuous:
- Active: The team had been developing the software.
- Passive: The software had been being developed (by the team). (ใช้ไม่บ่อย)
- Future Simple:
- Active: We will launch the product.
- Passive: The product will be launched (by us).
- Future Continuous:
- Active: They will be building the house.
- Passive: The house will be being built (by them). (ใช้ไม่บ่อย)
- Future Perfect:
- Active: She will have completed the report.
- Passive: The report will have been completed (by her).
- Future Perfect Continuous:
- Active: He will have been studying the topic.
- Passive: The topic will have been being studied (by him). (ใช้ไม่บ่อย)
ทำไมต้องใช้ Passive Voice ?
การเลือกใช้ Passive Voice คือตัวช่วยที่มีประโยชน์ในการสื่อสารหลายกรณี เช่น:
- เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ
- The documents were stolen. (เอกสารถูกขโมยไปแล้ว)
- ในกรณีนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ขโมย
- The documents were stolen. (เอกสารถูกขโมยไปแล้ว)
- เมื่อไม่ต้องการระบุผู้กระทำ
- Mistakes were made. (มีการทำผิดพลาดเกิดขึ้น)
- ประโยคนี้ไม่ระบุว่าใครเป็นผู้ทำผิดพลาด ซึ่งอาจใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ
- Mistakes were made. (มีการทำผิดพลาดเกิดขึ้น)
- เมื่อต้องการเน้นผลลัพธ์ของการกระทำ
- The bridge was built in 2010. (สะพานถูกสร้างขึ้นในปี 2010)
- ประโยคนี้เน้นไปที่ผลลัพธ์ (สะพานถูกสร้างเสร็จ) มากกว่าผู้สร้าง
- The bridge was built in 2010. (สะพานถูกสร้างขึ้นในปี 2010)
- ใช้ในการเขียนเชิงวิชาการหรือวิทยาศาสตร์
- The experiment was conducted to test the theory. (การทดลองถูกทำเพื่อทดสอบทฤษฎี)
- มักใช้ Passive Voice ในการเขียนรายงานวิจัยเพราะต้องการเน้นผลการทดลองมากกว่าผู้ทำการทดลอง
- The experiment was conducted to test the theory. (การทดลองถูกทำเพื่อทดสอบทฤษฎี)
เทคนิคการจำ Passive Voice แบบขึ้นใจ
จริงอยู่ที่ Passive Voice อาจเป็นเรื่องที่ชวนสับสนเล็กน้อย และเข้าใจได้ไม่ง่ายนัก อย่างไรก็ตาม ถ้าลองใช้เทคนิคเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้คุณจำได้ดีขึ้น:
- จินตนาการว่าคุณเป็น “ผู้ถูกกระทำ”
ลองคิดว่าคุณเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ เช่น “I was invited to the party” (คุณถูกเชิญ) - ใช้คำว่า “ถูก” ในภาษาไทย
คำว่า “ถูก” ในภาษาไทยมักจะสื่อถึง Passive Voice เช่น “บ้านถูกสร้างขึ้นแล้ว” (The house was built). - สังเกตคำว่า “by”
ประโยค Passive Voice มักมีคำว่า “by” ตามหลังผู้กระทำ เช่น “The book was written by the author”. - ฝึกเปลี่ยนประโยคบ่อย ๆ
ลองเขียนประโยค Active Voice แล้วเปลี่ยนเป็น Passive Voice เช่น- Active: The cat chased the mouse.
- Passive: The mouse was chased by the cat.
เรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา เพิ่มทักษะที่ใช้ได้จริงที่AUA Language Center
นอกจากการเข้าใจว่า Active Voice และ Passive Voice คืออะไร ใช้งานแตกต่างกันอย่างไรแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่รู้แล้วรับรองว่าจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจขึ้นแน่นอน โดยสำหรับใครที่อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้งานจริง ทั้งในชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำงาน แนะนำคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาจาก AUA ที่จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และนำไปใช้ได้กับทุกสถานการณ์จริงในที่ทำงาน สอนสด โดยครูต่างชาติเจ้าของภาษา สามารถเลือกเรียนภาษาอังกฤษได้ทั้งแบบสอนสดและออนไลน์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ LINE: @aualc
ข้อมูลอ้างอิง
How to use the active or passive voice. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567. จาก https://www.bbc.co.uk/bitesize/articles/zkttng8