เมื่อพูดถึงการเรียนภาษาอังกฤษ หลายคนมักวิตกกังวลเมื่อเจอ “Past Tense” เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นไวยากรณ์ที่ซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว การเรียนรู้ Past Tense ไม่ได้ยากอย่างที่คาดคิด เนื่องจากแต่ละรูปแบบมีความหมายและวิธีใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เพื่อให้คุณผู้อ่านเห็นภาพ และเข้าใจว่า Past Tense คืออะไร และควรใช้กับสถานการณ์แบบไหน บทความนี้จะพาไปสำรวจ Past Tense ทุกรูปแบบอย่างละเอียด พร้อมยกตัวอย่างการใช้งานที่ชัดเจน รับรองว่าหลังอ่านจบ จะสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Past Tense คืออะไร ?
Past Tense หรือกาลอดีต คือรูปแบบกริยาในภาษาอังกฤษที่ใช้เล่าเรื่องราวในอดีต โดยบรรยายเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เช่น เมื่อวาน สัปดาห์ที่แล้ว หรือหลายปีก่อน โดยทั่วไป ประโยค Past Tense จะมีคำบอกเวลาเพื่อระบุช่วงที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราสามารถใช้ Past Tense โดยไม่จำเป็นต้องระบุเวลาที่แน่ชัด ขึ้นอยู่กับบริบทและจุดประสงค์ของการสื่อสาร
ตัวอย่างง่าย ๆ ของ Past Tense เช่น
- I visited my friend yesterday. (ฉันไปเยี่ยมเพื่อนเมื่อวานนี้)
- She watched a movie last night. (เธอดูหนังเมื่อคืนนี้)
ที่น่าสนใจคือ Past Tense แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบหลัก ได้แก่ Past Simple Tense, Past Continuous Tense, Past Perfect Tense และ Past Perfect Continuous Tense ซึ่งมีวิธีการใช้และความหมายที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้
Past Tense มีรูปแบบไหนบ้าง ?
เพื่อให้ทุกคนสื่อสารได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับ Past Tense ทั้ง 4 รูปแบบกันก่อน
1. Past Simple Tense
Past Simple Tense คือ รูปแบบพื้นฐานที่สุดของ Past Tense และเรามักจะใช้ Past Simple Tense เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว โดยไม่เน้นเวลาที่เกิดขึ้นหรือระยะเวลาที่ใช้ เหมาะสำหรับการเล่าเรื่องราวทั่วไปที่เกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้างของประโยค
- S + V2 (ประธาน + กริยาช่องที่ 2)
ตัวอย่างเช่น
- I visited Japan last year. (ฉันไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว)
- They watched a movie yesterday. (พวกเขาดูหนังเมื่อวานนี้)
จะสังเกตว่า กริยาในประโยค เช่น “visited” และ “watched” เป็นกริยาช่องที่ 2 ซึ่งอยู่ในรูปอดีต นี่คือลักษณะเด่นของ Past Simple Tense ที่แสดงว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นและจบลงไปแล้วอย่างชัดเจน
2. Past Continuous Tense
Past Continuous Tense คือ โครงสร้างที่ใช้เพื่อบรรยายเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต โดยเหตุการณ์นี้อาจถูกขัดจังหวะหรือเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์อื่นในช่วงเวลานั้นก็ได้
โครงสร้างของประโยค
- S + was/were + V-ing (ประธาน + was/were + กริยาเติม -ing)
ตัวอย่างเช่น
- She was cooking when the phone rang. (เธอกำลังทำอาหารเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น)
- They were playing football at 4 PM yesterday. (พวกเขากำลังเล่นฟุตบอลตอน 4 โมงเย็นเมื่อวานนี้)
จะเห็นได้ว่า มีการใช้ “was/were + verb-ing” ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของ Past Continuous Tense เพื่อแสดงถึงการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีตและอาจถูกขัดจังหวะได้
3. Past Perfect Tense
Past Perfect Tense คือ รูปแบบที่ใช้เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต หรือเพื่อเน้นย้ำว่าเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่ง
โครงสร้างของประโยค
- S + had + V3 (ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3)
ตัวอย่างเช่น
- I had finished my homework before the movie started. (ฉันทำการบ้านเสร็จก่อนหนังจะเริ่ม)
- They had left the party before I arrived. (พวกเขาออกจากงานเลี้ยงก่อนที่ฉันจะมาถึง)
หากสังเกตจากรูปประโยค มีการใช้ “had + กริยาช่องที่ 3” ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของ Past Perfect Tense เพื่อแสดงว่าเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่ตามมา
4. Past Perfect Continuous Tense
Past Perfect Continuous Tense คือรูปแบบสุดท้ายที่ใช้เพื่อบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีต และถูกขัดจังหวะหรือสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุการณ์อื่นเกิดขึ้น โครงสร้างนี้มักใช้เพื่อแสดงความต่อเนื่องของเหตุการณ์ก่อนที่จะถูกขัดจังหวะในอดีต
โครงสร้างของประโยค
- S + had been + V-ing (ประธาน + had been + กริยาเติม -ing)
ตัวอย่างเช่น
- She had been studying for three hours before the power went out. (เธออ่านหนังสือมาเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนที่ไฟจะดับ)
- They had been waiting for a long time when the bus finally arrived.(พวกเขารอมาเป็นเวลานานก่อนที่รถบัสจะมาถึง)
สังเกตการใช้ “had been + verb-ing” ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของ Past Perfect Continuous Tense เพื่อแสดงว่าการกระทำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะมีเหตุการณ์อื่นเข้ามาขัดจังหวะ
Past Tense ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อมีคอร์ส English for Business เป็นตัวช่วย
จากเนื้อหาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้เลยว่า การทำความเข้าใจ Past Tense ทั้ง 4 รูปแบบนั้นไม่ได้ยากเย็นอย่างที่หลายคนวิตกกังวล เพียงแค่เข้าใจหลักการใช้งานและฝึกฝนผ่านตัวอย่างประโยค ก็จะสามารถสื่อสารเหตุการณ์ในอดีตเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้อง
แต่นอกจากเข้าใจไวยากรณ์เรื่อง Past Tense แล้ว สำหรับใครที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน ขอแนะนำ English for Business คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานจาก AUA คอร์สนี้ครอบคลุมทักษะสำคัญด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ ตั้งแต่การเจรจาต่อรอง การเขียนเอกสารธุรกิจ ไปจนถึงการนำเสนองาน เลือกเรียนได้ทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ โดยทุกคลาสสอนสดโดยอาจารย์เจ้าของภาษา เพื่อให้มั่นใจว่าทักษะที่ได้เรียนจะนำไปใช้ในที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ LINE OA : @aualc
ข้อมูลอ้างอิง
- 4 Past Tenses and When to Use Them. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567. จาก https://oxfordhousebcn.com/en/4-past-tenses-and-when-to-use-them/